ไม่มีหมวดหมู่

Published on พฤศจิกายน 21st, 2024 | by Divali

0

กระบี่ : ปฏิบัติการร่วมตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายต่อกรณีบุกรุกพื้นที่ กฟผ. กระบี่

วันที่ 21 พฤษจิกายน 2567
เวลา 10.00 น.
โรงไฟฟ้ากระบี่ ตำบลคลองขนานอ .เหนือคลอง.กระบี่
💥พันเอกสรรเสริญ  พุ่มเกิด รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกระบี่เป็นประธานในการปฏิบัติการร่วมตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย ต่อกรณีบุกรุกพื้นที่ กฟผ. กระบี่
💥มีตัวแทน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ ตัวแทนผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่, เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกระบี่, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอเหนือคลอง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เหนือคลอง, สภ. คลองขนาน, เจ้าหน้าที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426, ผู้บริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เข้าร่วมกิจกรรม
💥โดยมีนายธันยบูรณ์  สกลกิติวัฒน์  ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าภาคใต้ กล่าวรายงานว่า

📌ตามที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จังหวัดกระบี่ ได้ดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้า ตั้งแต่อดีตที่เป็นการลิกไนท์ มาจนถึงปัจจุบัน โดยที่ดินที่เป็นที่ตั้งโรงไฟฟ้ากระบี่ ส่วนหนึ่งเป็นที่ดินที่ได้รับการเพิกถอนจากการเป็นป่าคุ้มครองป่าแหลมกรวด และป่าคลองบางผึ้ง ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 190 (พ.ศ.2506) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่าพุทธศักราช 2481 
📌โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การลิกไนท์ใช้ที่ดินในการสร้างโรงไฟฟ้าและได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ล่าสุดจากกรมป่าไม้ เนื้อที่ประมาณ 4,420 ไร่ และอีกส่วนหนึ่งเป็นที่ดินของรัฐ ตำบลปกาสัย ที่การไฟฟ้าลิกไนท์ถือครอง โดยที่ดินดังกล่าวได้ถูกจำแนกออกตามมติสภาบริหารคณะปฏิวัติ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2515 และ กฟผ. รับโอนมาตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ.2511 โดยได้มีการทำประโยชน์ในพื้นที่มาตลอดจนถึงปัจจุบัน
📌เนื่องจาก มีการบุกรุกพื้นที่และทำลายทรัพย์สินที่อยู่ในความรับผิดชอบดูแลของ กฟผ. บริเวณสวนปาล์มน้ำมัน กฟผ. กระบี่ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2566  โดยเข้ามาปักหลักจับจองพื้นที่ ตัดต้นไม้ ขึงลวดหนาม และปลูกพืชผลต่าง ๆ เพื่อครอบครองพื้นที่ดังกล่าว ด้วยความเข้าใจผิด  
📌กฟผ. จึงได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพิจารณาแล้วว่า การบุกรุกในเขตพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน กฟผ. กระบี่ เป็นความผิดฐานบุกรุก และฐานทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา รวมถึงเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 โดย กฟผ. มีสิทธิฟ้องร้องดำเนินคดีและขับไล่ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ รวมถึงรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ทั้งนี้ กฟผ. ได้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุก และหารือแนวทางการดำเนินการให้สอดคล้องตามกระบวนการทางกฎหมายหลายครั้งแล้ว แต่ยังคงมีการบุกรุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

📌 ดังนั้น เพื่อป้องกันและรักษาไว้ซึ่งพื้นที่ของ กฟผ. สำหรับการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนในอนาคต จึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการร่วมกับ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่, สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกระบี่, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเหนือคลอง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เหนือคลอง สภ.คลองขนาน และ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 426 เพื่อเข้าตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายต่อกรณีบุกรุกพื้นที่ กฟผ. ตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่
💥รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกระบี่กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่มีการบุกรุกพื้นที่และทำลายทรัพย์สินของ กฟผ. ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ของรัฐ ที่ประชาชนควรรักษาและสงวนไว้เนื่องจากเป็นพื้นที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ราษฎรไม่มีสิทธิครอบครองเป็นของตน ผมในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกระบี่และประธานในพิธี เล็งเห็นว่า ปฏิบัติการร่วมในครั้งนี้ที่เข้าตรวจสอบและควบคุมพื้นที่ จะสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ รวมถึงแก้ไขเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ เพื่อประสานให้ประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้อง
💥หลังจากนั้นได้ลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว ได้พบปะผู้ที่เข้าใช้พื้นที่บางส่วนปลูกอาสินและสร้างที่พัก ได้มีการพูดคุย เจ้าหน้าที่ กรมป่าไม้ ตรวจสอบอาณาเขตด้วย ระบบ จีพีเอส เพื่อความชัดเจนในอาณาเขตและสิทธิครอบครอง ในการแกัปัญหาต่อไป

#โรงไฟฟ้ากระบี่

#guestrelation 
#verykrabi
Please follow and like us:
Pin Share


About the Author



Comments are closed.

Back to Top ↑