Published on กุมภาพันธ์ 3rd, 2017 | by Divali
0ชาวกระบี่มองอย่างไรกับการพัฒนาพลังงานในพื้นที่”
คนกระบี่เปิดใจ ร่วมเสวนา
“ชาวกระบี่มองอย่างไรกับการพัฒนาพลังงานในพื้นที่”
คนกระบี่ตัวจริง บอกเล่าประสบการณ์และความต้องการที่แท้จริงของชุมชน ในเวทีเสวนา “ชาวกระบี่มองอย่างไรกับการพัฒนาพลังงานในพื้นที่”
ชี้คนกระบี่ส่วนใหญ่รู้ว่าต้องการพัฒนาบ้านเกิดของตนอย่างไร และเห็นด้วยกับการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและธุรกิจท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปี
พร้อมย้ำชัด ถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้จังหวัดกระบี่และประเทศไทยมีพลังงานไฟฟ้าใช้อย่างยั่งยืน
นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ และนายสมเกียรติ กิตติธรกุล นายกสมาคมกีฬา จังหวัดกระบี่และประธานสโมสรฟุตบอลกระบี่เอฟซี ร่วมเสวนาในหัวข้อ “ชาวกระบี่มองอย่างไรกับการพัฒนาพลังงานในพื้นที่”
โดยมี นายวิวัฒน์ ชาญเชิงพานิช รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นประธานเปิดงาน ณ สำนักงานกลาง กฟผ. อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ กล่าวว่า ถ่านลิกไนต์อยู่คู่กับจังหวัดกระบี่มาตั้งแต่ปี 2503 โดยการเข้ามาของโรงไฟฟ้าลิกไนต์กระบี่.
และในปี 2524 จังหวัดกระบี่เริ่มเป็นที่รู้จักและกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับ 1-5 ของประเทศ เนื่องจากมีแหล่งธรรมชาติที่สวยงาม และในอนาคตอีก 3 ปีข้างหน้ารัฐบาลมีแผนจะขยายสนามบินนานาชาติกระบี่ให้สามารถรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น ซึ่งถ้าไม่มีโรงไฟฟ้าแล้วธุรกิจท่องเที่ยวจะอยู่ได้อย่างไร
“คนกระบี่มีความคุ้นเคยกับโรงไฟฟ้าถ่านหิน ใต้ท้องน้ำกระบี่ก็ยังมีถ่านลิกไนต์ คนกระบี่ส่วนใหญ่มีความเข้าใจถึงความจำเป็นและเห็นด้วยในการสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ ต้องการสร้างความยั่งยืนให้กับลูกหลาน แต่รัฐบาลควรมีมาตรการในการดูแลเรื่องผลกระทบของชุมชนให้เขาได้รับประโยชน์ เช่น ใช้ไฟฟ้าฟรีเพื่อตอบแทนการเสียสละของชุมชน”
นายสมเกียรติ กิตติธรกุล นายกสมาคมกีฬาจังหวัดกระบี่ฯ ในฐานะผู้บุกเบิกธุรกิจโรงแรมในเกาะพีพี กล่าวว่า สมัยก่อนเกาะพีพีใช้เครื่องปั่นไฟในการผลิตไฟฟ้าซึ่งใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ทำให้ราคาค่าไฟหน่วยละ 20 บาท สูงสุด 28 บาท ตั้งแต่จังหวัดกระบี่มีโรงไฟฟ้าลิกไนต์เข้ามา ทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าในการดำเนินธุรกิจลดลงอย่างมาก
“คนกระบี่รู้ว่าต้องการพัฒนาพื้นที่บ้านเกิดของตนอย่างไร และเห็นด้วยกับการสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ เพราะทุกวันนี้เราต้องพึ่งไฟฟ้าจากเพื่อนบ้าน ถ้าวันนี้เราไม่สร้างความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าแล้ว อนาคตลูกหลานเราจะอยู่อย่างไร
การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแม้จะเป็นพลังงานสะอาด แต่ไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ตลอดเวลาและมีต้นทุนสูง อยากให้ฟังเสียงของประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก และอยากฝากให้ กฟผ. นำเทคโนโลยีป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อมมาใช้ในทุกกระบวนการผลิตไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมให้จังหวัดกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าอยู่และมีสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน”