Published on สิงหาคม 11th, 2015 | by Divali
0จังหวัดกระบี่จัดกิจกรรม”คืนกล้วยไม้ ถวายแม่ ” เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2558 และตอกย้ำท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในกระบี่ เพิ่มสีสัน Green season
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2558 เวลา 09.30 น. ณ โรงเรียนบ้านอ่าวน้ำ หมู่ที่ 2 ตำบลแหลมสัก อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม”คืนกล้วยไม้ ถวายแม่” ซึ่งชมรมกล้วยไม้จังหวัดกระบี่ ร่วมกับ อำเภออ่าวลึก หน่วยงานราชการ และเอกชนในพื้นที่ ร่วมกันจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงฉลองพระชนมพรรษา 83 พรรษา ในวันแม่แห่งชาติ และเพื่อเป็นการเพิ่มปริมาณกล้วยไม้ป่าสู่ธรรมชาติ สร้างจิตสำนึกของประชาชนในการอนุรักษ์กล้วยไม้ป่าพันธุ์พื้นถิ่นและ สร้างความพร้อมในการรองรับกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่ โดยมีนายบุญพาศ รักนุ้ย นายอำเภออ่าวลึก กล่าวต้อนรับ และมีนายประกอบ อ่าวน้ำ ประธานชมรมกล้วยไม้จังหวัดกระบี่ กล่าวรายงาน
นายบุญพาศ รักนุ้ย นายอำเภออ่าวลึก กล่าวถึงความน่าสนใจของกิจกรรมดังกล่าวว่า ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงพันธุ์กล้วยไม้พื้นถิ่น ชาวบ้านในชุมชน และชมรมผู้เพาะเลี้ยงกล้วยไม้จาก 5 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน โดยได้ทำการเพาะพันธุ์กล้วยไม้ จำนวนกว่า 1,500 ต้น ประกอบด้วย 6 ชนิด ได้แก่ พันธุ์รองเท้านารีเหลืองกระบี่ พันธุ์กุหลาบกระบี่ พันธุ์เขี้ยวกระบี่ พันธุ์กะเรกะร่อนกระบี่ พันธุ์หงส์กระบี่ และ พันธุ์ผีเสื้อกระบี่ โดยเฉพาะพันธุ์รองเท้านารีเหลืองกระบี่ หนึ่งในสายพันธุ์ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงโปรดเกล้าฯให้มีการอนุรักษ์และศึกษา ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของจังหวัดกระบี่ด้วย โดยกล้วยไม้ทั้งหมด จะถูกนำไปปลูกในพื้นที่ป่าบริเวณบ้านอ่าวน้ำ มี่พื้นที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตตามธรรมชาติ คือเป็นภูเขาหินปูนติดชายฝั่งทะเล ตามเกาะที่มีหน้าผาสูงชัน หรือตามรอยแยกของหินที่ปกคลุมไปด้วยมอส ทั้งนี้หลังจากปลูกแล้ว ชาวบ้านในชุมชนจะช่วยกันดูแลและบำรุงรักษาให้เติบโตต่อไปในธรรมชาติ
นายอำเภออ่าวลึกยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของบ้านอ่าวน้ำ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ภาพเขียนสีเขาเตียบ เส้นทางอารยธรรมโบราณ ซากฟอสซิลเปลือกหอยอายุหลายล้านปี การทำประมงพื้นบ้าน และการทำกะปิซึ่งผลิตจากตัวเคยชั้นดี มีคุณภาพ และมีชื่อเสียงเป็นเอกลักษณ์ของ ต.แหลมสัก
นายประกอบ อ่าวน้ำ ประธานชมรมกล้วยไม้จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า บ้านอ่าวน้ำ หมู่ที่ 2 ตำบลแหลมสัก อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติมีรูปแบบการดำเนินชีวิตและภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีความหลากหลาย เช่นมีทรัพยากรป่าชาายเลนมีความอุดมสมบูรณ์ มีภูเขา เกาะแก่ง และเพิงผาที่มีความสวยงามแปลกตา เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ มีการประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านและการช้อนกุ้ง หรือ”ตัวเคย” เพื่อมาผลิตกะปิ อันเป็นภูมิปัญญาเฉพาะถิ่นของชาวบ้าน ตลอดจนมีการค้นพบร่องรอยอารยธรรมโบราณกระจายอยู่ในพื้นที่เช่นภาพเขียนสีโบราณอายุประมาณ 2,000 – 3,000 ปี บริเวณเพิงผาเขาเตียบ และแหลมไฟไหม้ มีการค้นพบซากฟอสซิลอายุประมาณ 200 ล้านปี บริเวณเขาอ่าวน้ำโดยขณะนี้ปรากฏว่าทั้งภาคราชการที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ และกลุ่มองค์กรภาคชนในพื้นที่ได้ร่วมกันพัฒนาการใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ให้เกิดกับพี่น้องประชาชนควบคู่ไปกับการดูแลรักษาโดยเฉพาะการพัฒนาเพื่อรองรับภาคการท่องเที่ยวของอำเภออ่าวลึก และของจังหวัดกระบี่
ชมรมกล้วยไม้จังหวัดกระบี่ กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติบ้านอ่าวน้ำ คณะกรรมการตำบลแหลมสัก และภาคส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาเห็นว่าพื้นที่บ้านอ่าวน้ำในอดีตเป็นพื้นที่ที่มีกล้วยไม้ธรรมชาติสายพันธุ์ต่างๆอยู่เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะกล้วยไม้รองเท้านารีสายพันธุ์เหลืองกระบี่ แต่เนื่องจากมีการลักลอบนำกล้อยไม้ธรรมชาติออกไปจำหน่ายเป็นจำนวนมากจึงทำให้ปัจจุบันปริมาณกล้วยไม้ธรรมชาติลดลงไปเป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมายุ 83 พรรษาในวันที่ 12 สิงหาคม 2558 และเป็นการอนุรักษ์ฟื้นฟูพันธุ์กล้วยไม้โดยเฉพาะกล้วยไม้รองเท้านารีสายพันธุ์เหลืองกระบี่ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถซึ่งได้พระราชทานไว้เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2554 ณ ศูนย์วิจัยพันธ์ข้าวจังหวัดกระบี่ ตลอดจนเพื่อเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จะส่งเสริมสนับสนุนสร้างความพร้อมของพื้นที่ในการรองรับการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวของบ้านอ่าวน้ำ จึงจัดกิจกรรม” คืนกล้วยไม้ ถวายแม่” โดยจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยจะนำกล้วยไม้สู่ป่าจำนวน 200 กระถาง และได้รับความร่วมมือในการจัดกิจกรรมจากที่ทำการปกครองอำเภออ่าวลึก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกระบี่อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 25 อ่าวลึก โรงเรียนบ้านอ่าวน้ำ เทศบาลตำบลแหลมสัก องค์การบริหารส่วนตำบลแหลมสัก คณะกรรมการตำบลหล่มสัก เครือข่ายชมรมกล้วยไม้จังหวัดกระบี่และกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติบ้านอ่าวน้ำ ซึ่งได้มีการสร้างเครือข่ายในการมีส่วนร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรกล้วยไม้และทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆในกลุ่มเยาวชน อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ได้มีการให้ความรู้และจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์ “กลุ่มต้นกล้า สู่ป่าใหญ่”จำนวน 9 คน ประกอบด้วยเด็กหญิง วิยะดา คนเรียน,เด็กหญิง ปริชาติ อ่าวน้ำ , เด็กชาย นันทวุฒิ ล่องข้อง, เด็กชาย ศุภกร ปานบุญ ,เด็กชายอธิราช วาหะรักษ์ , เด็กชาย พงษ์สกร อาชา ,เด็กชาย ณัฐพงศ์ กะสิรักษ์ ,เด็กชายปัญชา จำมินา และเด็กชาย อานัด อ่าวน้ำ
ด้านนางวิยะดา ศรีรางกูล ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ กล่าวว่า กระบี่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี มีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย โดยเฉพาะในช่วง Green Season ที่ทรัพยากรธรรมชาติสวยงามสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กิจกรรม CSR หรือท่องเที่ยวเชิงศึกษาดูงานได้ สำหรับการจัดกิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นการสร้างการรับรู้ถึงสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ และกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สร้างสรรค์ โดยชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และจัดการ ซึ่งนับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมดังกล่าว ยังได้ตอกย้ำภาพลักษณ์ของจังหวัดกระบี่ ที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี หากนักท่องเที่ยวสนใจ สามารถติดต่อจัดกิจกรรมคืนกล้วยไม้สู่ป่าได้จากชุมชนตลอดทั้งปี
จากแนวโน้มการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จะเห็นได้ว่าสถิตินักท่องเที่ยวในปี 2557 มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือน 3.9 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 1.83 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.82 และนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ 2.08 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.27 และมีรายได้จากการท่องเที่ยว 67,906.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.51 แยกเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทย 26,990.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.53 และรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ 40,916.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.16
“การประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และวิถีชีวิตชุมชน นอกจากจะเป็นการนำเสนอกิจกรรมการท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้แก่นักท่องเที่ยวแล้ว ยังสามารถกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่ทุกภาคส่วนในจังหวัด อันเป็นส่วนหนึ่งที่จะก่อให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนต่อไป “ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ กล่าว