เปิดตำนาน “ขนมลา” ทำไมต้องมีในงานเดือนสิบ? ที่มาและวิธีทำ
#ขนมลา
…นี่ก็ใกล้งานสำคัญของภาคใต้แล้ว คือ
#เทศกาลสารทหรืองานเดือน 10 งานรับ ส่งตายาย งานรับเปรต ส่งเปรต งานชิงเปรต แล้วแต่เรียกกัน..
ในงานจะมีการทำบุญเซ่นไหว้ผู้ล่วงลับไปแล้ว เป็นการรำลึกบรรพชน
ตอนนี้ตามตลาดเริ่มมีขนมเดือน 10 วางขายบ้างแล้ว บางประเภทมีขายตลอดปี แต่สมัยก่อนต้องลงมือทำเองทุกบ้าน
ในบรรดาขนมต่างๆนั้น ขนมลา เป็นอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ แล้วก็ถึงคำถามว่าทำไมจึงเรียกว่า "ขนมลา"..แปลว่าอะไร
#ก่อนอื่นมาดูคำว่า"ลา"เสียก่อนในภาษาเราแปลได้หลายอย่าง
ลา : เป็นคำบอกเล่าก่อนจากกัน
ลา : เป็นสัตว์พาหนะชนิดหนึ่ง
ลา : คำพื้นถิ่นแปลว่า
"ทา ลูบไล้ เช็ด" ด้วยของเหลว
ลา : คำพื้นถิ่นแปล เสื่อมสภาพ ใช้การ ไม่ได้ เช่น ตาเบ็ดเสื่อม ไม่สามารถ เกี่ยวปลาติดได้
ลา : ชื่อขนมเดือน 10 มีอยู่ 2 ชนิดคือ
"#ลาเช็ดกับลาลอยมัน"
ในภาษาอื่นๆที่ออกเสียงว่า "ลา" มีไหม?…มีเหมือนกัน
มลายู ใกล้ๆเรา คำว่าลา แปลว่า "ไม่ใช่ ไม่เป็น ไม่มี"
ภาษาบาลีมีคำออกเสียงว่า "ลา"เหมือนกัน แปลว่า "ตัด เก็บ เกี่ยว"
ฉะนั้น คำว่า"ลา"ที่ใช้เรียกขนมเป็นภาษาของเราเอง ไม่ได้ยืมภาษาอื่นมาใช้ แต่อาจมี กลวิธีบางอย่างในการสร้างคำ ลองวิเคราะห์ได้ 2 ทาง
1.คำว่า ลา มาจากคำภาษาพื้นบ้าน ว่า "ทา" นั่นเอง ดูจากอาการทำขนม เมื่อเตรียมตั้งกะทะแล้ว เขาเอาน้ำมัน "ลา(ทา)กะทะ" เสียก่อนกันเส้นขนมจะ ติดกะทะ แล้วจึงจะเอาแป้งขนมที่เตรียมจนได้ที่แล้วใส่ภาชนะที่เจาะรูทอดเส้น ลงวนไปมาเป็นแผ่นเป็นผืนตามต้องการ ใช้ไม้เขี่ยขึ้นพักไว้ก่อนจะทำชิ้นใหม่ เขาก็ใช้ผ้าชุบน้ำมันเช็ด ลา(ทา) ก่อนแล้วทอดชิ้นต่อไป เหตุนี้ น่าจะเรียกว่า "ลาเช็ด" หรือเรียกกัน ทั่วไปว่า"ขนมลา"
2.ประเด็นนี้อิงภาษาบาลีหน่อยหนึ่ง เนื่องจากขนมนี้เขาทำเป็นแผ่นคล้ายผืนผ้า มีเส้นสอดสลับไปมาคล้ายเส้นด้าย ร่างแห บางๆนิ่ม นักแปลงภาษาจึงเอาคำบาลีว่า
"ชาล,ชาละ"
ซึ่งแปลว่า "ตาข่าย ร่างแห"มาลากเสียงท้ายให้ยาวออกเป็น ชา-ลา แล้วพูดสั้นๆตามสำ เนียงบ้านเราว่า-ลาขนมลา เราแอบยืมความหมายมาใช้ ลากเสียงยาวเอาเองครับ
คำว่า"ชาลา"ในภาษาบาลีจริงๆเขาแปลว่า "เปลวไฟ โคมไฟ" ไปหาดูได้แถวท่ารถโดยสารโน่น
ขนมลา ที่เราแอบบาลีนี้มีความหมาย ตรงที่รูปร่างขนมเป็นผืนใช้แทนเสื้อผ้าอาภรณ์ สำหรับเปรตตนไหนปากเท่ารูเข็มดึงออกมาทีละเส้นกินได้เหมือนกัน
ภาษาไทยภาคใต้เราตัดคำ สร้างคำแบบนี้มีมากเหมือนกัน เช่น เล (ชล-ทะเล) โค (ขนม) โข (มาก) หวาก (น้ำเมา) เป็นต้น
ขนมลา หรือลาเช็ดนี้นิยมทำกันทางเมืองนครฯ ปัจจุบันทำเป็นอุตสาหกรรมครัวเรือนหากินได้ตลอดปี ทางกระบี่ส่วนใหญ่จะทำ "#ลาลอยมัน" #หรือขนมรังนกอย่างนี้ทอดในกะทะที่ใส่น้ำมันเยอะ
แกว่งวนให้เป็นกลุ่มสอดเส้นแบบรังนกหรือจะเป็นแผ่นพับก็ได้ เมื่อเขี่ยขึ้นจากกะทะแล้ว เส้นจะกรอบอมน้ำมันมากกว่าลาเช็ด
.คำว่า "ขนมลา"#มาจากไหนก็แล้วแต่จะเชื่อเถิด
อ.กลิ่น คงเหมือนเพชร/บันทึก


ในงานจะมีการทำบุญเซ่นไหว้ผู้ล่วงลับไปแล้ว เป็นการรำลึกบรรพชน
ลา : เป็นคำบอกเล่าก่อนจากกัน
"ชาล,ชาละ"
ซึ่งแปลว่า "ตาข่าย ร่างแห"มาลากเสียงท้ายให้ยาวออกเป็น ชา-ลา แล้วพูดสั้นๆตามสำ เนียงบ้านเราว่า-ลาขนมลา เราแอบยืมความหมายมาใช้ ลากเสียงยาวเอาเองครับ
อ.กลิ่น คงเหมือนเพชร/บันทึก