มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ปีที่ 2 จังหวัดกระบี่ระหว่างวันที่ 12 – 13 กรกฎาคม 2568 ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนที่สนใจและลงทะเบียนร่วมงานกว่า 2,622 ราย
“มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ปีที่ 2 จังหวัดกระบี่ระหว่างวันที่ 12 - 13 กรกฎาคม 2568 ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนที่สนใจและลงทะเบียนร่วมงานกว่า 2,622 ราย
วันที่ 12 กรกฎาคม 2568
เวลา 10.30 น.
อาคารแพล็ตตินั่ม จ กระบี่
นายสุวิทย์ สุริยะวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่กล่าวต้อนรับ
โดยมีนายกู เฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมนายเป็นประธานเปิด มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ปีที่ 2 จังหวัดกระบี่
โดยมีนายอัสนาวี มุคุระ ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดกระบี่ หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดกระบี่ ผู้บริหารภาคีเครือข่ายสถาบันการเงิน แขกผู้มีเกียรติ และผู้เข้าร่วมงาน ฯ
นายธีรยุทธ แก้วสิงห์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกล่าวรายงานว่า
“มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ปีที่ 2 จังหวัดกระบี่ ในวันนี้ ตามนโยบายรัฐบาล ได้กำหนดแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินทั้งระบบ ให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน รัฐบาลได้กำหนดแนวทางในการดำเนินการ อย่างชัดเจน และบูรณาการทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้ เป็นไปอย่างยั่งยืน และไม่กลับมาเป็นหนี้ซ้ำอีก กระทรวงยุติธรรมมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้สินดังกล่าว โดยภารกิจส่วนนี้ได้นำกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เข้ามาจัดการแก้ไขปัญหาเช่น การจัดมหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องเป็น ปีที่ 2 สำหรับการ ขับเคลื่อนโครงกสร มีรูปแบบการดำเนินงาน 3 รูปแบบ ดังนี้
.รูปแบบที่ 1. การจัดงานรูปแบบ Events โดยการบูรณาการร่วมกันระหว่าง กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี;และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เช่น รูปแบบการจัดงานวันนี้ ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ/ รวม 45 ครั้ง/ โดยครั้งแรก กระทรวงยุติธรรม เป็นเจ้าภาพในการจัดงานที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 21 - 22 ธันวาคม 2567 ครั้งที่ 2 - 17 กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นเจ้าภาพจัดงาน และครั้งที่ 18 – 40 กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ร่วมกับกรมบังคับคดี และสำนักงานยุติธรรมจังหวัด เป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้ ในการจัดงาน 40 ครั้งที่ผ่านมา มีลูกหนี้ขอไกล่เกลี่ยกว่า 75,160 ราย ทุนทรัพย์กว่า 9,096 ล้านบาท ลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน กว่า 7,048 ล้านบาท และ ปลดผู้ค้ำประกัน 70,120 ราย
รูปแบบที่ 2 การจัดการไกล่เกลี่ย ปรับโครงสร้างหนี้ผ่านระบบออนไลน์ โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี และกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยเฉพาะลูกหนี้ กยศ. มีการปรับโครงสร้างหนี้ออนไลน์กว่า 401,248 ราย สามารถลดภาระประชาชน เช่น ลดเบี้ยปรับกว่า 1,312 ล้านบาท/ ลดค่าธรรมเนียมศาลกว่า 20 ล้านบาท ค่าจ้างทนายความกว่า 4 ล้านบาท
รูปแบบที่ 3 การจัดกิจกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ ตามบริบทของพื้นที่ โดยสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสำนักงาน บังคับคดีจังหวัด และภาคีในพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการ ให้บริการปรึกษาทางกฎหมาย การบริหารจัดการหนี้ โดยทนายความที่ปรึกษากฎหมาย ประจำสำนักงานยุติธรรมจังหวัด และผู้ไกล่เกลี่ยประจำ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท รวมทั้งศูนย์ยุติธรรมชุมชนอีกด้วย
สำหรับการจัดงานืในจังหวัดกระบี่ ในครั้งนี้ กำหนดจัดงาน ระหว่างวันที่ 12 - 13 กรกฎาคม 2568 จำนวน 2 วัน ซึ่งกระทรวงยุติธรรม #โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกรมบังคับคดี สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกระบี่ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดกระบี่ ร่วมบูรณาการ กับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาและสถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์ หน่วยงานภาครัฐรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ได้เชิญชวนลูกหนี้เข้าร่วมงานทั้ง 2 วัน ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนที่สนใจและลงทะเบียนร่วมงานกว่า 2,622 ราย #มีสถาบันการเงินหน่วยงานที่เข้าจัดการไกล่เกลี่ยและปรับโครงสร้างหนี้ประกอบด้วย
1. กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
2. กรมการพัฒนาชุมชน (กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี)
3. ธนาคารออมสิน
4. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
5. สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกระบี่
6. ห้างหุ้นส่วนจำกัดกระบี่ ไพศาลลิสซิ่ง
7. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สำนักใหญ่
8. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
9. บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด
10. บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด
11. บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จํากัด (มหาชน)
#โดยงานประกอบด้วย
#2กิจกรรมได้แก่
1. การให้บริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ทั้งก่อนฟ้อง และหลังศาลมีคำพิพากษา
2. การจัดนิทรรศการประชาสัมพันธ์ และให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการสร้างวินัย ทางการเงินและหน่วยงานในพื้นที่
นายกู เฮง ยาวอหะซันกล่าวว่า
ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด - 19 บางคนตกงาน บางคนถูกลดเงินเดือน ซ้ำร้ายไปกว่านั้น สินค้าอุปโภคบริโภค มีราคาแพงขึ้น ราคาน้ำมันก็พุ่งสูง ซึ่งเกิดจากสภาวะของโลก จนทำให้เกิดหนี้สิน เป็นจำนวนมาก บ้างก็ค้างค่างวดส่งสถาบันการเงิน บ้างก็ถูกยึดบ้านที่เป็นที่อยู่อาศัย รัฐบาลปัจจุบันจึงกำหนดกรอบในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน เป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วน ในฐานะรัฐบาลจะไม่นิ่งเฉย จะดำเนินการช่วยคลายหนี้ให้กับทุกคนเท่าที่จะทำได้
จากสถานการณ์ภาวะหนี้ของประเทศไทย กระทรวงยุติธรรม ได้รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภายใต้ปรัชญาที่จะไม่ขัด ต่อวินัยทางการเงิน และไม่ทำให้เกิดภาวะภัยทางจริยธรรม (Moral Hazard) ของผู้มีภาระหนี้สิน โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ ดำเนินการไกลเกลี่ยข้อพิพาท #อีกทั้งต้องเกิดจากความสมัครใจเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย สร้างการตระหนักรู้ และเข้าใจ เพื่อเลือกใช้ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ในการยุติข้อพิพาททางแพ่ง และข้อพิพาททางอาญาตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 ประกอบด้วย การไกล่เกลี่ยหนี้สินก่อนฟ้อง ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 และหลังศาล มีคำพิพากษาตามระเบียบกรมบังคับคดีว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2558 เพื่อให้ประชาชนที่เป็นหนี้ ลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล เช่าซื้อ ลิสซิ่งที่ผิดนัดชำระหนี้เข้าเกณฑ์ฟ้อง หรือไม่มีกำลังผ่อนชำระตามสัญญา เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผน และสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน เป็นเกราะป้องกันปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนต่อไป
ในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมได้จัดงาน“มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความ เป็นธรรม” ปีที่ 1 มาแล้ว ทั้ง ๗๖ จังหวัด จำนวน 49 ครั้งช่วยเหลือลูกหนี้ได้ จำนวน 132,303 ราย จำนวนทุนทรัพย์ 23,901.84 ล้านบาท แยกเป็น
ลูกหนี้ก่อนฟ้อง ช่วยเหลือได้ 66,172 ราย/ ทุนทรัพย์ จำนวน 11,217.04 ล้านบาท
·ลูกหนี้หลังศาลมีคำพิพากษาช่วยเหลือลูกหนี้ไม่ให้ถูกยึดทรัพย์และอายัดทรัพย์ จำนวน 66,131 ราย ทุนทรัพย์ จำนวน 12,684.8 ล้านบาท
สำหรับลูกหนี้ กยศ. ครั้งที่ผ่านมามีการคำนวนยอดหนี้ใหม่ 3.65 ล้านบัญชีเสร็จแล้ว ผู้กู้ 2.98 ล้านราย ได้รับประโยชน์
ช่วยลดหนี้ผู้กู้เป็นเงินกว่า 56,326 ล้านบาท ปลดภาระผู้ค้ำได้ 2.8 ล้านราย
โดยผู้เข้าร่วมงานจะได้รับประโยชน์ ในกรณีก่อนฟ้อง คือ การผ่อนผันการชำระหนี้ ลดเบี้ยปรับลดดอกเบี้ย ลดค่างวดรายเดือนงดฟ้องดำเนินคดี และรับเงื่อนไข ปลดผู้ค้ำประกัน สำหรับในส่วนของชั้นบังคับคดี หรือหลังคำพิพากษา ประโยชน์ที่จะได้รับคือการขยายเวลาผ่อนชำระหนี้ลดเบี้ยปรับ ลดจำนวนเงินผ่อนชำระหนี้ งดยึดทรัพย์ งดขายทอดตลาดลูกหนี้จะไม่ถูกบังคับคดี และยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย
#สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกระบี่
#verykrabi
#imageofkrabi


“มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ปีที่ 2 จังหวัดกระบี่ระหว่างวันที่ 12 - 13 กรกฎาคม 2568 ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนที่สนใจและลงทะเบียนร่วมงานกว่า 2,622 ราย
วันที่ 12 กรกฎาคม 2568
เวลา 10.30 น.
อาคารแพล็ตตินั่ม จ กระบี่
“มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ปีที่ 2 จังหวัดกระบี่ ในวันนี้ ตามนโยบายรัฐบาล ได้กำหนดแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินทั้งระบบ ให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน รัฐบาลได้กำหนดแนวทางในการดำเนินการ อย่างชัดเจน และบูรณาการทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้ เป็นไปอย่างยั่งยืน และไม่กลับมาเป็นหนี้ซ้ำอีก กระทรวงยุติธรรมมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้สินดังกล่าว โดยภารกิจส่วนนี้ได้นำกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เข้ามาจัดการแก้ไขปัญหาเช่น การจัดมหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องเป็น ปีที่ 2 สำหรับการ ขับเคลื่อนโครงกสร มีรูปแบบการดำเนินงาน 3 รูปแบบ ดังนี้
นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการ ให้บริการปรึกษาทางกฎหมาย การบริหารจัดการหนี้ โดยทนายความที่ปรึกษากฎหมาย ประจำสำนักงานยุติธรรมจังหวัด และผู้ไกล่เกลี่ยประจำ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท รวมทั้งศูนย์ยุติธรรมชุมชนอีกด้วย
สำหรับการจัดงานืในจังหวัดกระบี่ ในครั้งนี้ กำหนดจัดงาน ระหว่างวันที่ 12 - 13 กรกฎาคม 2568 จำนวน 2 วัน ซึ่งกระทรวงยุติธรรม #โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกรมบังคับคดี สำนักงานยุติธรรมจังหวัดกระบี่ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดกระบี่ ร่วมบูรณาการ กับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาและสถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์ หน่วยงานภาครัฐรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ได้เชิญชวนลูกหนี้เข้าร่วมงานทั้ง 2 วัน ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนที่สนใจและลงทะเบียนร่วมงานกว่า 2,622 ราย #มีสถาบันการเงินหน่วยงานที่เข้าจัดการไกล่เกลี่ยและปรับโครงสร้างหนี้ประกอบด้วย
#โดยงานประกอบด้วย
#2กิจกรรมได้แก่