Guest Relation

NEWS

Published on ตุลาคม 11th, 2013 | by Divali

0

แพทย์มหิดลเสนอทำ “การ์ด คุมกำเนิด” ให้โจ๋ไทย

แพทย์มหิดลเสนอทำ “การ์ด คุมกำเนิด” ให้โจ๋ไทย แค่ใบเดียวรูดได้ทันที รับฟรี “คอนดอม-ยาคุมฉุกเฉิน” ชี้ช่วยให้ได้ข้อมูลการคุมกำเนิดและวัดผลการท้อง การทำแท้งในวัยรุ่นลดลงหรือไม่ เตรียมชง สปสช.หนุนงบประมาณดำเนินการ 5 ล้านบาท คาดนำร่องกลุ่มอาชีวะก่อน ชูแพ็กเกจความรู้ให้เด็กตามช่วงอายุ

พญ.ภัทรวลัย ตลึงจิตร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำ เสนอโครงร่างงานวิจัยการศึกษามาตรการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น สำหรับประเทศไทย ว่า การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นและการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เป็นปัญหาสุขภาพที่นักวิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดอันดับให้เป็น ปัญหาที่มีความสำคัญอันดับ 1 ของวัยรุ่น เนื่องจากอัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริง เพราะไม่มีข้อมูลเรื่องการทำแท้งแบบผิดกฎหมาย ดังนั้น การป้องกันที่ดีคือจะต้องให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชน และต้องเพิ่มการเข้าถึงบริการการคุมกำเนิดอย่างปลอดภัย

พญ.ภัทรวลัย กล่าวอีกว่า การให้ความรู้เด็กและเยาวชน เสนอว่าต้องจัดความรู้เป็นแบบแพ็กเกจตามช่วงอายุ โดยในกลุ่มวัยรุ่นตอนต้น คือ อายุ 10-13 ปี เน้นเรื่องการอย่ามีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร โดยจะต้องสอนให้มีทักษะในการใช้ชีวิต และรู้จักการปฏิเสธ ส่วนกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15-19 ปี ซึ่งมีข้อมูลว่าเด็กวัยนี้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งล้วนเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก แล้วนั้น ต้องเน้นการให้ความรู้เรื่องการมีเพศสัมพันธ์อย่างไรให้ปลอดภัย รู้จักป้องกันตัวเองและมีการคุมกำเนิดอย่างถูกต้อง

ส่วนการเพิ่มการเข้าถึงบริการคุมกำเนิดแบบปลอดภัย เสนอให้มีการทำการ์ดสำหรับวัยรุ่ น ซึ่งประยุกต์มาจากประเทศอังกฤษ ที่มีการทำ U-Card สำหรับวัยรุ่นหญิงในการขอรับบริการยาคุมฉุกเฉินฟรี และ C-Card สำหรับวัยรุ่นชายอายุน้อยกว่า 24 ปี ในการขอรับบริการถุงยางอนามัยฟรี ซึ่งเห็นผลชัดเจนว่าช่วยลดปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นได้ โดยไทยจะทำเป็นการ์ดเพียงใบเดียว ซึ่งวัยรุ่นสามารถนำการ์ดนี้ไปขอรับบริการคุมกำเนิดอย่างปลอดภัยได้ตามสถาน ที่ต่างๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา เป็นต้น โดยจะต้องสแกนบาร์โค้ดบนการ์ด เพื่อส่งข้อมูลกลับไปยังฐานข้อมูล ซึ่งจะทำให้ทราบว่าในแต่ละเดือนมีเด็กขอใช้บริการกี่ราย และมีการจ่ายอุปกรณ์คุมกำเนิดไปเป็นจำนวนเท่าไร

“หากประเทศไทยเดินหน้าตามโครงร่างนี้ ก็จะนำร่องในกลุ่มเด็กอาชีวะก่อน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการตั้งครรภ์สูงมาก แต่เป็นสถานศึกษาที่เปิดกว้างในเรื่องนี้ คือเมื่อนักเรียนคลอดแล้วยังสามารถกลับมาเรียนต่อได้ ไม่เหมือนโรงเรียนในสังกัด สพฐ.โดยทางคณะผู้วิจัยจะเข้าไปดำเนินการอบรมให้แก่นักเรียนก่อน จากนั้นจะให้นักเรียนมาขอรับการ์ดตามความสมัครใจ โดยต้องกรอกแบบสอบถามเพื่อดูว่ามีความเข้าใจที่ถูกต้องหรือไม่ และให้กรอกที่อยู่ที่สะดวกในการจัดส่ง เพราะเด็กบางรายอาจไม่ต้องการให้ที่บ้านรับรู้ หรือบางรายสามารถลงทะเบียนขอรับการ์ดผ่านอินเทอร์เน็ตได้ โดยจะต้องมีการกรอกแบบสอบถามและที่อยู่เช่นกัน” พญ.ภัทรวลัย กล่าว

ที่มา : เว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์

Please follow and like us:
Pin Share

Tags:


About the Author



Comments are closed.

Back to Top ↑

RSS
Follow by Email