Guest Relation

Local news

Published on พฤศจิกายน 20th, 2015 | by Divali

0

แถลงข่าว ปฎิบัติการ “รส.กบ. 11/2558 ” การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่

แถลงข่าว ปฎิบัติการ “รส.กบ. 11/2558 ” การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2558 เวลา 14.30 น.ณ ห้องอ่าวลึก ศาลากลางจังหวัดกระบี่ ( หลังใหม่ ) นายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานแถลงข่าว สรุปผลการปฎิบัติตามแผนปฎิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ “รส.กบ. 11/2558

ตามที่กลุ่มมวลชนอ้างเหตุผลการเรียกร้องที่ดินทำกิน บุกรุกเข้ายึดพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันในที่ดินมีเอกสารสิทธิ์ของเอกชน หรือพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่เอกชนได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ ซึ่งยังไม่หมดอายุการอนุญาต และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่เอกชนได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่หมดอายุการอนุญาต แต่มีกรณีพิพาทกับกรมป่าไม้ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองในพื้นที่อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่

เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่อำเภอปลายพระยา รวมถึงพื้นที่อื่นๆที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าวในจังหวัดกระบี่อาทิเช่นการลักขโมยผลปาล์มน้ำมัน ความขัดแย้งระหว่างภายในกลุ่ม ความขัดแย้งกับราษฎรในพื้นที่ เกิดเหตุทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สิน ฆ่ากันตาย ความผิดเกี่ยวกับอาวุธสงคราม การหลอกลวง ฉ้อโกง ปัญหายาเสพติดความผิดฐานบุกรุกที่ดินเอกชนและความผิดฐานบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ นำไปสู่การอนุมัติหมายจับของศาลจังหวัดกระบี่ แล้วจำนวนหลายคดี

เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่คุ้มครองสิทธิของประชาชนทั่วไป และปฏิบัติให้เป็นไปตามหมายจับ จังหวัดกระบี่จึงได้สนธิกำลังฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงสร้างความเข้าใจให้ผู้บุกรุกทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดกฏหมาย ขอให้ออกจากพื้นที่บุกรุก หากไม่ยินยอมทางราชการจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายโดยผลักดันออกจากพื้นที่และดำเนินคดีตามกฎหมาย ในการปฏิบัติได้ยึดหลักเมตตาธรรม หลักนิติธรรม หลักสิทธิมนุษยชน เคารพสิทธิ์ในการชุมนุมภายใต้กฎหมายว่าด้วยการชุมนุม แต่ต้องไม่ละเมิดหรือทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนการใช้กำลังจะกระทำเท่าที่จำเป็นเท่านั้นทั้งนี้ตามกระบวนการทางกฎหมายและหลักสากล

พื้นที่ดำเนินการได้แก่พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่กรมป่าไม้ได้อนุญาตให้บริษัทไทยอุตสาหกรรมจำกัดใช้ประโยชน์ยังไม่หมดอายุการอนุญาตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่กรมป่าไม้ เคยอนุญาตให้บริษัทยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ใช้ประโยชน์ หมดอายุการอนุญาตแล้ว แต่บริษัทยังคงถือครองเนื่องจากมีข้อพิพาทกับกรมป่าไม้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองและพื้นที่เอกสารสิทธิ ( น.ส.3 )
ของบริษัท ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน)

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 เวลา 09.00 น.ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหารตำรวจป่าไม้และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดกระบี่ประมาณ 11,00 นาย นัดหมายพร้อมกัน ณ สภ.ปลายพระยา จัดประชุมหัวหน้าชุดแต่ละหน่วยงาน ที่ห้องประชุม สภ.ปลายพระยา เพื่อรับฟังแนวทางปฎิบัติ โดยมี พ.ต.อ.วิฑูร กองสุดใจ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เป็นประธาน

เวลา 09.20 น.เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้เคลื่อนกำลังจาก สภ.ปลายพระยา เข้าไปยังพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันของบริษัท ไทยอุตสาหกรรม จำกัดหมู่ที่ 9 ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายจุดที่ 1 มีกลุ่มสมาคมคนไทยไร้ที่ทำกิน นำโดยนายสุมลตรี สุขดำ บุกรุกถือครองอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

เวลา 10.00 น.เจ้าหน้าที่ทั้งหมด ได้เดินทางถึงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันของ บริษัท ไทยอุตสาหกรรม จำกัด และได้กระจายกำลังเข้าควบคุมพื้นที่ จากนั้น พ.ต.อ.ชำนาญ ชำนาญกิจ ผกก.สภ.ปลายพระยา ได้ประกาศชี้แจงผ่านเครื่องขยายเสียง ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้กลุ่มมวลชนที่ยังอยู่ในสวนปาล์มน้ำมันได้รับทราบและขอให้ออกจากพื้นที่ หากไม่ยินยอมปฏิบัติตาม เจ้าหน้าที่จำเป็นจะต้องทำการจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมาย

เวลา 10.30 น.หลังจากการชี้แจง เจรจาของเจ้าหน้าที่ มีกลุ่มมวลชนบางส่วน ประมาณ 20 คน ให้ความร่วมมือยินยอมออกจากพื้นที่ และบางส่วนกลับเข้าไปในพื้นที่ปาล์มดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเข้าไปภายในพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เพื่อทำการตรวจสอบการกระทำที่ผิดกฎหมายและจับกุมกลุ่มมวลชนที่ไม่ยินยอมออกจากพื้นที่ โดยได้ควบคุมตัวกลุ่มมวลชนที่ไม่ยินยอมออกจากพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันดังกล่าว จำนวน 62 คน นำตัวไปควบคุมไว้ที่ กองร้อย ตชด. 426 อำเภอเมืองกระบี่ในระหว่างการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ไม่มีเหตุรุนแรงหรือการปะทะกับกลุ่มมวลชนแต่อย่างใด

เวลา 11.00 น.ได้รับรายงานจากตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ว่ามีกลุ่มมวลชนสมาคมคนไทยไร้ที่ทำกินประมาณ 100 คนรวมตัวกันบริเวณถนนฝั่งตรงข้ามสนามบินนานาชาติกระบี่เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังไม่ให้เข้าสนามบิน ต่อมาได้มีประชาชนในพื้นที่ ออกมาต่อต้านกลุ่มมวลชนดังกล่าว จนเกิดเหตุชุลมุน ต่างฝ่ายต่างบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุไว้ได้

เวลา 12.40 น.กลุ่มมวลชนยื่นข้อเรียกร้อง และยุติการชุมนุมโดยไม่มีการเข้าไปในสนามบินแต่อย่างใด ทั้งนี้ได้มีการกำหนดแผนรองรับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวไว้ล่วงหน้าแล้ว

เวลา 14.00 น.เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันหมู่ 9 ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยาได้ทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยจากนั้นได้เคลื่อนกำลังย้ายมายังพื้นที่ส่วนปาล์มน้ำมันของบริษัทยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัดในพื้นที่ หมู่ที่ 5 ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา

เวลา 15.00 น.เจ้าหน้าที่ได้เดินทางถึงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันของบริษัทยูนิวานิชน้ำมันปาล์มจำกัด ซึ่งอ้างว่ามีหลักฐานเอกสารสิทธิ์ที่ดิน นส.3 ก ในพื้นที่ หมู่ที่ 7 ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา เป้าหมายจุดที่ 2 มีกลุ่มสมาคมคนไทยไร้ที่ทำกิน นำโดยนายสุมลตรี สุขดำ บุกรุกถือครองอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าควบคุมพื้นที่เพื่อตรวจสอบตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ และควบคุมพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันดังกล่าวไว้ได้ทั้งหมด ขณะปฏิบัติพบว่ามีกลุ่มมวลชนบางส่วนยังอยู่ในพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไว้จำนวน 26 คนในระหว่างการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไม่มีเหตุรุนแรง และการต่อต้านของกลุ่มมวลชนแต่อย่างใด

เวลา 16.00 น.เจ้าหน้าที่ได้เดินทางถึงสวนปาล์มน้ำมันที่หมดอายุการอนุญาตของ บริษัทยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัดในพื้นที่หมู่ที่ 5,7 และ 8 ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา เป้าหมายจุดที่ 3 มีกลุ่มประชาชนเพื่อประชาชน นำโดยนายสมศักดิ์ แสงบัว บุกรุกถือครองพื้นที่ดังกล่าวโดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังเข้าควบคุมพื้นที่ เพื่อตรวจสอบ ตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ และควบคุมพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันดังกล่าวไว้ได้ทั้งหมด ขณะการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ไม่ปรากฏว่ามีกลุ่มมวลชนอยู่ในพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันแต่อย่างใด

เวลา 17.30 น.เจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมพื้นที่ส่วนปาล์มน้ำมันทั้ง 3 แห่งตามแผนปฏิบัติการไว้ได้โดยเรียบร้อย

สรุปผลการปฏิบัติ ผู้ที่ไม่ยินยอมออกจากพื้นที่ซึ่งได้ถูกควบคุมตัวนำมาคัดกรองและจัดทำประวัติที่ กองร้อย ตชด.426 รวมจำนวน 112 คนดังนี้ 1 ผู้ถูกควบคุมตัวที่ได้รับการช่วยเหลือเป็นค่าเดินทางกลับภูมิลำเนาจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ และได้ส่งตัวกลับภูมิลำเนาแล้ว จำนวน 22 คน( มาจากจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
2 ผู้ต้องหาตามหมายจับสภ.ปลายพระยาจำนวน 1 คน ได้แก่นายสมบุญ นวนนุ่น อายุ 45 ปี นำส่ง สภ.ปลายพระยาดำเนินคดีต่อไป
3.ผู้ถูกควบคุมตัวที่ประสงค์จะขอเก็บสิ่งของในพื้นที่ซึ่งมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้นำส่งอำเภอปลายพระยาโดยจัดให้นอนพักค้างคืนในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 ที่ศาลาประชาคมเฉลิมพระเกียรติ อำเภอปลายพระยา จำนวน 40 คน และเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยตนเองเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2558

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2558 เวลาประมาณ 09.30 น.มวลชนจำนวน 100 คน นำโดยนายชูวงศ์ มณีกุล เป็นกลุ่มที่หลบหนีจากการถูกผลักดันเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 ได้กลับเข้ามาปักหลักในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่หมดอายุการอนุญาต แปลงบริษัทยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) แต่บริษัทยังคงถือครองเนื่องจากมีข้อพิพาทกับกรมป่าไม้ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง ในท้องที่หมู่ที่ 8 ตำบลปลายพระยา จึงมอบหมายให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ หน่วยงานในสังกัดกรมป่าไม้ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ กำหนดผนปฎิบัติการเข้าควบคุมพื้นที่แล้ว

ภาพและข่าว : ไพฑูรย์  ล่องเพ็ง

Tags:


About the Author



Comments are closed.

Back to Top ↑