ศาลปกครองจัดการแถลงข่าวเนื่องในโอกาสครอบรอบ 15 ปี

วันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๙ ศาลปกครอง โดย นายปิยะ ปะตังทา รองประธานศาลปกครองสูงสุด ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานในการแถลงผลการดำเนินงานของศาลปกครองในรอบปี ๒๕๕๘ ที่ผ่านมา

และทิศทางการดำเนินงานของศาลปกครองในปีต่อไปให้สื่อมวลชนและสาธารณชนทราบ รวมทั้งประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของศาลปกครอง โดยเปิดเผยว่า

ตลอดปีงบประมาณที่ผ่านมา ศาลปกครองได้ปฏิบัติหน้าที่สำคัญในการอำนวยความยุติธรรมข้อพิพาททางปกครอง โดยมุ่งเน้นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยได้นำระบบการบริหารเชิงยุทธศาสตร์มาใช้เป็นกรอบทิศทางในการดำเนินการเพื่อเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนองค์การให้ประสบความสำเร็จในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นปีแรกของการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์

ศาลปกครอง (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๖๑ ซึ่งได้กำหนดให้เป็น

“ปีแห่งการยกระดับมาตรฐานระบบการบริหารจัดการคดีปกครอง” โดยเร่งรัดการพิจารณาพิพากษาคดีและการบังคับคดีปกครอง ร่วมกับการใช้มาตรการในการบริหารจัดการคดี ผลสำเร็จจากการดำเนินงานสะท้อนได้จากผลการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อการอำนวยความยุติธรรมของศาลปกครอง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

พบว่าประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อการอำนวยความยุติธรรมของศาลปกครอง คิดเป็นร้อยละ ๙๑.๗๒

สำหรับผลการดำเนินงานที่สำคัญของศาลปกครองในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำแนกเป็น ๓ ส่วน ดังนี้

ส่วนที่ ๑ ผลการดำเนินงานด้านการพิจารณาพิพากษาคดีและบังคับคดีปกครองนับตั้งแต่ศาลปกครองเปิดทำการจนถึง วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ มีคดีเข้าสู่การพิจารณาจำนวน ๑๑๕,๐๑๘ คดี เฉพาะปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ที่ผ่านมา

ศาลปกครองได้พิจารณาคดีได้แล้วเสร็จของศาลปกครองชั้นต้นจำนวน ๖,๖๔๙ คดี เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนตุลาการเจ้าของสำนวนแล้วพบว่าตุลาการเจ้าของสำนวนในศาลปกครองสูงสุดมีภาระงานคดีเฉลี่ยสูงถึง ๕๗๗ คดีต่อท่าน และตุลาการเจ้าของสำนวนในศาลปกครองชั้นต้นมีภาระงานคดีเฉลี่ย ๑๖๖ คดีต่อท่าน ซึ่งจำเป็นต้องเร่งรัดการสรรหาตุลาการเพื่อแบ่งเบาภาระงานโดยคำนึงถึงคุณภาพและประสิทธิภาพของการทำงานด้วยเช่นกัน

ในด้านการบังคับคดีปกครอง จนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ มีคดีเข้าสู่การบังคับคดีจำนวน ๙,๙๓๐ คดี บังคับคดีได้แล้วเสร็จจำนวน ๗,๕๑๐ คดี คิดเป็นร้อยละ ๗๕.๖๓ และมีคดีที่อยู่ระหว่างดำเนินการบังคับคดี จำนวน ๒,๔๒๐ คดี คิดเป็นร้อยละ ๒๔.๓๗จำนวนคดีรับเข้า คดีแล้วเสร็จ และคดีค้างของศาลปกครองตั้งแต่เปิดทำการจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘

จำนวนคดีรับเข้าของศาลปกครอง จำแนกตามปี พ.ศ.

ตั้งแต่เปิดทำการจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ จำนวนคดีแล้วเสร็จของศาลปกครอง จำแนกตามปี พ.ศ.

ตั้งแต่เปิดทำการจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘

จำนวนคดีรับเข้าของศาลปกครอง จำแนกตามแผนกคดี

ตั้งแต่เปิดทำการจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘

แผนกคดี คดีรับเข้าศป.สูงสุด ศป.ชั้นต้นรวม๒ ชั้นศาล

คดีปกครองทั่วไป (เปิดทำการ ๙ มี.ค. ๔๔) ๒๘,๙๐๑ ๗๗,๒๐๑ ๑๐๖,๑๐๒

แผนกคดีสิ่งแวดล้อม (เปิดทำการ ๒ ส.ค. ๕๔) ๙๓๑ ๔,๖๗๑ ๕,๖๐๒

แผนกคดีบริหารงานบุคคล (เปิดทำการ ๑๐ มี.ค. ๕๗) ๙๑๔๒,๓๙๙ ๓,๓๑๓

แผนกคดีวินัยการคลังและการงบประมาณ

(เปิดทำการ ๑ ธ.ค. ๕๘) ๑ ๑

ส่วนที่ ๒ ผลการดำเนินงานด้านอื่นๆ

ปีงบประมาณที่ผ่านมา ศาลปกครองได้เปิดทำการแผนกคดีวินัยการคลังและการงบประมาณ ในศาลปกครองสูงสุดและศาลปกครองชั้นต้น เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ และมีการเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีการพิจารณาคดีปกครองในส่วนที่เกี่ยวกับการบังคับคดีปกครอง การบริหารงานบุคคลตุลาการศาลปกครอง การแก้ไขปรับปรุงอำนาจของ ก.ขป. ก.ศป. และกำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารศาลปกครองและแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการเปิดศาลปกครองในภูมิภาคและเขตอำนาจทางพื้นที่ของศาลปกครองให้เหมาะสม

ในส่วนของบุคลากร ได้มีการดำเนินการสรรหาและคัดเลือกตุลาการศาลปกครองสูงสุดแลตุลาการ ศาลปกครองชั้นต้นเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ และรวมถึงพัฒนาความรู้ทางวิชาการและแนวทางปฏิบัติต่างๆ

เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพให้แก่ตุลาการและบุคลากรของสำนักงานศาลปกครอง

มีการพัฒนาเพิ่มช่องทางอำนวยความยุติธรรมทางปกครอง โดยเร่งรัดให้มีการดำเนินการ โครงการก่อสร้างที่ทำการศาลปกครองตามที่ได้รับอนุมัติงบประมาณในการก่อสร้าง อีกจำนวน ๗ แห่ง และพัฒนาระบบการพิจารณาพิพากษาคดีปกครองผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์

(e-Court)

นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมทางปกครองให้แก่ประชาชน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐทั่วประเทศ รวมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือทางวิชาการระหว่างประเทศ เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของศาลปกครอง ตลอดปีงบประมาณที่ผ่านมา

ส่วนที่ ๓ ทิศทางการดำเนินงานในวาระต่อไปของศาลปกครอง

ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ กำหนดให้เป็น “ปีแห่งการเพิ่มประสิทธิภาพและมาตรฐานการทำงานตามหลักธรรมาภิบาล” โดยมีการกำหนดนโยบายและทิศทางการดำเนินการ รวม ๔ ประการ ดังนี้ คือ

ประการที่หนึ่ง ดำเนินการบริหารจัดการคดีให้มีความรวดเร็ว เป็นธรรม และมีมาตรฐานขึ้นโดยมีการปรับปรุงฐานข้อมูลกฎหมายและฐานข้อมูลสารสนเทศที่จำเป็นต่อการใช้งาน และพัฒนาแนวคำวินิจฉัยให้มีมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ให้บริการต่อประชาชนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยนำต้นแบบของศาลปกครองอิเล็กทรอนิกส์ (e-Court) มาใช้ในการบริหารจัดการคดีปกครองและให้บริการประชาชน

ประการที่สอง เร่งพัฒนาการบังคับคดีปกครองเพื่อให้เกิดประสิทธิผลในการปฏิบัติตามคำพิพากษาและคำสั่งของศาลปกครอง โดยปรับปรุง แก้ไขกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ และหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการบังคับคดีปกครอง ให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลามาตรฐานที่กำหนด

ประการที่สาม เร่งรัดการเข้าถึงการอำนวยความยุติธรรมและการให้บริการประชาชน ในการเปิดทำการศาลปกครองในภูมิภาค อีก ๑ แห่ง คือ ศาลปกครองนครสวรรค์ และดำเนินการปรับปรุงศูนย์บริการประชาชนอย่างต่อเนื่องในด้านคุณภาพ เพื่อให้ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) พัฒนาช่องทางที่หลากหลายในการเข้าถึง เช่น พัฒนาระบบสายด่วน ๑๓๕๕ เว็บไซต์ของศาลปกครอง เป็นต้น

ประการที่สี่ ส่งเสริมการดำเนินงานของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครองให้มีคุณภาพ คุณธรรม จริยธรรม และปลูกฝังวัฒนธรรมศาลปกครองให้แก่บุคลากร โดยมุ่งเน้นการปฏิบัติงานด้วยความโปร่งใส (Transparency) ยึดมั่นในความถูกต้อง (Righteousness) และมีคุณภาพมาตรฐาน (Standard)